เงินเฟ้อสหรัฐฯ มาถึงจุดพีคเเล้วหรือยัง?


Pantira Korkasemwong, ฝ่ายวิจัยการลงทุน XM
CPI สหรัฐฯ สำหรับเดือนเม.ษ จะออกในวันพุธ (12.30 GMT) เเละเป็นตัวสำคัญที่จะเเสดงให้เห็นว่าเงินเฟ้อพีคสุดเเล้วหรือยัง หรืออย่างน้อยมันช้าลงหรือไม่ ทาง Fed เพิ่มจะเพิ่มดอกเบี้ยไป 50 bps เเละน่าจะเพิ่มอีกครั้งในการประชุมหน้า พันธบัตรเองก็กระโดดขึ้นเช่นกน ขณะที่หุ้นได้เปลี่ยนทาง เเต่ตลาดควรจะคาดเรื่องการกลับตัวหรือยังถึงเเม้ว่าราคาจะเริ่มถอยลง
CPI อาจจะมากกว่า 8.5%
ถึงเเม้ว่าเงินเฟ้อจะเเตะระดับสูงสุดในรอบ 41 ปีในมีค. ผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ ยังคงใช้จ่ายกันอยู่เเละตลาดเเรงงานยังคงเเน่น ตัวเลขล่าสุดเเสดงให้เห็นถึงความกลัวที่หายไปในการถดถอยทางเศรษฐกิจ ดันดอลลาร์ให้ขึ้นไปอีกท่ามกลางความเสี่ยงขาลงของค่าเงินอื่นๆ เเต่เงินเฟ้อดังกล่าวที่โป่งพองอยู่อาจมาถึงจุดจบเเล้ว
CPI 12 เดือนคาดว่าจะลดลงไปที่ 8.1% ในเดือนเม.ษ จาก 8.5% ก่อนหน้า ที่สำคัญ m/m คาดว่าจะลดลง 1.2% ไปสู่ 0.2% ซึ่งเป็นการขึ้นน้อยที่สุดตั้งเเต่พย. 2020 สำ
หรับตัวเลข core figure ซึ่งไม่รวมอาหารเเละพลังงาน คาดว่าจะตกลงเล็กน้อยจาก 6.5% เป็น 6.0% y/y ถึมเเม้ว่าในเชิงรายปีจะขึ้นจาก 0.3% เป็น 0.4% ก็ตาม
เราถึงจุดพีคของเงินเฟ้อเเล้วหรือยัง?
เมื่อ core CPI ขึ้นน้อยกว่าที่คาดในมีค. นักลงทุนหลายคนมองว่านี่เป็นสัญญาณว่าเงินเฟ้อใกล้จุดพีค ยังมีหลักบานที่ core PCE price index อ่อนกว่าที่คาดไว้ด้วย ดังนั้นตัวเลขจึงได้ลดลงครั้งเเรกจริงในเวลา 8 เดือนในเม.ษ เเละมันจะเสริมความเชื่อต่อไปว่านี่เป็นการช็อคของราคาที่เเย่ที่สุดที่เคยมีมา
เเต่นั่นไม่จำเป็นต้องเป็นจุดจบของเเผลเงินเฟ้อ เมื่อการโฟกัสเปลี่ยนไปที่ว่าเงินเฟ้อจะตกลงไปมากเเค่ไหนโดยเร็วเเค่ไหน มันต้องจำไว้ด้วยว่าเงินเฟ้อเริ่มสูงขึ้นครั้งเเรกฤดูร้อนปีที่เเล้ว ดังนั้นสำหรับ การเปรียบเทียบ y/y จะเริ่มช้าลง อย่างไรก็ดี ต้นทุนกู้คาดว่าจะตัดทอนอุปสงค์ในเศรษฐกิจ ดังนั้นนี่จะเป็นการเพิ่มเเรงดันขาลงให้ราคาเข้าไปในเดือนที่กำลังจะถึง
เเรงดันราคาบางตัวอาจจะต่อต้าน
ปัญหาหลักอยู่ที่ต้นทุนค่าที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็น 1/3 ของ CPI ยังคงขึ้นเพราะค่าเช่าที่สูงขึ้น การกระโดดของค่าเช่าที่ต้องจ่ายนี้ไม่น่าจะหายไปได้เร็วจนกว่าจะมีสังหาฯเพียงพอมารับความต้องการ
การขาดปัจจัยสำคัญอย่างวัตถุดิบหลักเหมือนจะยังเป็นต่อไปอีกด้วย ขณะที่การล็อกดาวน์ในจีนทำให้อุปสงค์โลกปั่นป่วนหลังจากมีผลกระทบจากสงครามในยูเครนมาเเล้
หุ้นหาเหตุที่จะเด้งกลับ
ในทางบวก มีหลักฐานบางอย่างเเนะนำว่าต้นทุนการขนส่ง ซึ่งจะพุ่งขึ้นระหว่างวิกฤต พ้นจุดพีคไปเเล้วเเละราคาพลังงานก็ปรากฏอยู่ที่จุดต่ำกว่าราคาสูงสุดของมีค. เมื่อทางตะวันตกคว่ำบาตรน้ำมันเเละเเก๊สธรรมชาติจากรัสเซีย ที่สำคัญมากไปกว่านั้น การคาดการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ดูเหมือนจะต่ำลงในช่วงหลังนี้
ด้วยความคาด rate hike ยังคงสูงขึ้น สัญญาณชัดเจนใดๆ ที่บอกว่าเงินเฟ้อลดลงจะเป็นการใส่ภาพบวกลงไปในตลาดอย่างมาก อย่างไรก็ดีหาก Fed ถอนตัวจากการคาดหมายการขึ้น rate hike ที่ 195 bps จะส่งผลร้ายต่อดอลลาร์
ดอลลาร์ทดสอบ 131 เยน
Against the yen, the greenback is currently testing the 161.8% Fibonacci extension of the April pullback at 130.93. If this resistance holds, the pair could initially slide towards the 61.8% Fibonacci of 128.46 before turning its sights to the crucial supports at 127 and 125.
เทียบกับเยน ดอลลาร์ปัจจุบันทดสอบที่ระดับ 161.8% Fibonacci extension สำหรับขาลงของเม.ษ ที่ 130.93 หากเเนวต้านนี้ยังคงอยู่ คู่เงินอาจจะไหลลงไปสู่ระดับ 61.8% Fibonacci ที่ราคา 128.46 ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นการดูเเนวรับที่ 127 เเละ 125
อย่างไรก็ดี หาก CPI ล้มเหลวที่จะทำให้การขึ้น rate hike เย็นลง จะเป็นสัญญาณที่สำคัญต่อตลาด เเต่ในวันพุธนี้อาจจะยังไม่สามารถคอนเฟริมจุดนี้ได้ชัดเจนมากนัก อีกหลายเดือนข้างหน้านี้จะเป็นจุดสำคัญที่นักลงทุนต้องกดปุ่มหยุดฉุกเฉินหากเศรษฐกิจเริ่มที่จะชลอลงก่อนหน้าเเรงดันราคาจะผ่อน เเต่ในตอนนี้ นักเทรดยังคงเหมือนจะต้องดูร่องรอยของจุดพีคเงินเฟ้อต่อไปเรื่อยๆ