Fed เสนอเเผนรับมือปัญหา yield curve กลับหัว


Pantira Korkasemwong, ฝ่ายวิจัยการลงทุน XM

Fed มีประชุม 15-16 มีค. ในวันพุธ (18:00 GMT)เเละนักลงทุนจะมองหาร่องรอยว่า balance sheet จะถูกลดลงได้เร็วเเค่ไหน ตลาดเเรงงานในสหรัฐฯ เพิ่งเเข็งเเรงตั้งเเต่การประชุมมีค. สร้างความกดดันให้คนออกนโยบายพิจารณาขึ้น 50 basic points ในครั้งหน้า เเต่ที่น่ากังวลมากกว่าคือ yield curve กลับหัว 

 

 

ราคาที่ต้องจ่ายของเหตุการณ์ curve กลับหัว
ตลาดเเรงงานที่เเน่นเเละเงินเฟ้อที่ร้อนปกติเป็นที่มาของดอกเบี้ยที่สูง เเต่ในครั้งนี้ Fed เพิ่มเริ่มเพิ่มดอกเบี้ยกู้ เหล่าผู้ออกนโยบายลังเลที่จะนำเงินกระตุ้นออกเพราะกังวลกับผลกระทบของวิกฤตโควิด พวกเขากังวลว่าหากอุปสงค์ที่กองอยู่ระบายออกไป เเละอุปทานการผลิตที่ขาดเป็นเพียงเเค่ระยะสั้น เงินเฟ้อก็จะกลับมาอีก
ความจริงเเล้วเงินเฟ้อสร้างความปวดหัวมากขึ้น อุปทานการผลิตที่ขาดยังไม่ทันเเก้ ปัญหายูเครนสร้างการช็อคของราคาที่ใหญ่มากกว่านี้เมื่อราคาคอมโมดิตี้พุ่งสูงมาก เเละความเสี่ยงที่เเท้จริงของราคาที่ผันผวนในฐานะของรายจ่ายเฉลี่ยต่อชั่วโมงเริ่มที่จะถับถมมากขึ้น
เศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถทนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ข่าวดีเดียวคือเศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นดีมาก เเละภาพรวมก็ไม่ตกลงไปมากเท่ากับยุโรปเพราะสหรัฐไม่กระทบมากนักกับการที่ราคาพลังงานขึ้นเเละผลจากการคว่ำบาตรของรัสเซีย นั่นทำให้ Fed มีพื้นที่ขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่ผลักเศรษฐกิจให้ถึงภาวะถดถอย
อีกหนึ่งข้อได้เปรียบคือ Fed เเรงดันราคาที่เกี่ยวกับอุปทานทั้งหลายเกี่ยวข้องโดยตรงกับอุปสงค์ที่มากเกิน ดังนั้นถึงเเม้ว่าปัญหาอุปทานการผลิตขาดน่าจะอยู่ไปอีกสักพัก การอ่อนลงของอุปสงค์น่าจะช่วยผ่อนคลายเเรงกดดันของต้นทุนที่สูงขึ้นได้ นั่นหมายถึงนโยบายกระชับตัวน่าจะทำให้เงินเฟ้อลดลงมาได้ผล เหตุการณ์เดียวกันนี้ไม่สามารถเอาไปใช้ได้กับยูโรปเพราะราคาที่สูงส่วนใหญ่ดันจากปัญจัยภายนอก
Fed ตั้งค่าขึ้นดอกเบี้ยไว้ที่ 50 basis points
สมาชิก FOMC ออกมาสนับสนุนนโยบายกระชับตัวมากขึ้น ส่วน Powell เองก็ส่งสัญญาณว่าเขาเปิดโอกาสกับการขึ้นดอกเบี้ย 50 bps ในการประชุมพค. ครั้งหน้า ส่งผลให้ตลาดพนันเรื่องขึ้นดอกเบี้ยยิ่งสูงขึ้นไปอีก
FOMC ขึ้นเเผนการขึ้นดอกเบี้ยสำหรับ 2022 เป็น 6 ครั้งในมีค. เเละดูเหมือน dot plot จะขึ้นเหมือนกันในมิย. เเต่ก่อนหน้านั้นโฟกัสจะอยู่ที่การประชุมในพค. กับการตัดสินใจลด balance sheet
ความสนใจจะหันไปที่ balance sheet เร็วๆ นี้ 
ครั้งสุดท้ายที่ธนาคารกลางตัดสินลดการถือพันธบัตรลงคือ 50$ พันล้านต่อเดือน อย่างไรก็ดีผู้ออกนโยบายส่งสัญญาณว่าอยากจะเห็น balance sheet ลดเร็วกว่าเดิม ดังนั้นตลาดจะพบกับความช็อคในพค. เเละจะมีการส่งสัญญาณเรื่องการลดขนานใหญ่ในการประชุมหรือไม่?
มันมีกรณีที่หากลด balance sheet เร็วจะช่วยผ่อนคลายความตรึงเครียดของนโยบายกระชับตัวในดอกเบี้ย อีกหนึ่งเหตุผคือจะช่วยทำให้ yield curve ชันมากขึ้น ซึ่งช่วยคลายความกังวลของเศรษฐกิจถดถอยได้ พันธบัตร 10/2 ปี เเละ 30/5 ปี มีลักษณะกลับหัวในอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลของนโยบายกระชับตัว
ตลาดกังวลกับนโยบายกระชับตัวหรือไม่?
อย่างไรก็ดี Fed คงไม่กระชับนโยบายเร็วเกินไป ยอมปล่อยให้การขึ้นดอกเบี้ยค่อยเป็นไปอย่างอัตโนมัติ ความเสี่ยงหลักของตลาดคือหากยังไม่ได้ priced in ผลกระทบของการทำนโยบายกระชับตัวทั้งหมด ผลจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อ Fed เริ่มใช้เเผนเรียบร้อยเเล้ว
เเต่ตอนนี้ที่ยังไม่มีอะไรเเน่นอนเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของเงินเฟ้อเเละการหยุดของสงคราม เซอร์ไพรส์ใดๆ เกี่ยวกับการคุยเรื่อง balance sheet อาจจะสร้างความผันผวนให้กับพันธบัตรเเละตลาดหุ้นได้
ยูโรไม่สามารถตามดอลลาร์ที่ขึ้นได้ทัน
สำหรับดอลลาร์ โทนเสียง hawkish อาจจะสร้างการกระตุ้นได้อีก ผลัก euro/dollars ไปที่ $1.0920 ทะลุระดับเเนวรับไปที่ระดับต่ำสุดของ 22 เดือนที่ $1.0804 ที่เกิดในมีค.
อย่างไรก็ดี หากไม่มีการเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นในการประชุมเเละมีการเเสดงความกังวลของการบริโภคที่น้อยลงจากวิกฤตพลังงานเเละสงคราม euro/dollars อาจจะเด้งกลับมาได้ คู่เงินอาจจะปีขึ้นไปที่ 50-day moving average ที่ราคา $1.1165 ซึ่งเป็น 23.6% Fibonacci retracement ของมค-มีค ขาลงด้วย มากไปกว่านั้นระดับ 38.2% Fibonacci ที่ $1.1394 จะเป็นราคาต่อไป