ประชุม ECB – โทนเสียงเเนว dovish พร้อมกับจังหวะของ hawkish


Pantira Korkasemwong, ฝ่ายวิจัยการลงทุน XM
นโยบาย ECB จะประกาศในวันพฤหัส เวลา 12.45 GMT ถึงเเม้ว่าจะไม่มีการคาดหวังในเรื่องการเปลี่ยนเเปลงทางนโยบาย เเต่นักเทรดจะพยายามจับผิดภาษาในเชิง hawkish ที่ใช้ โดยเฉพาะหาก CPI ออกมาเเข็งเเรงกว่าที่คาดเเละมีอัตราการว่างงานน้อยในวันอังคาร ส่วน ratail sales จะออกในวันศุกร์ เเต่ NFP ของสหรัฐฯ อาจเเย่งความสนใจไปในวันเดียวกันนี้
ECB พยายามอยู่ห่างจากกลุ่ม hawkish
ขณะที่ธนาคารกลางหลายประเทศเริ่มตั้งนโยบายขึ้นดอกเบี้ย ECB เป็นหนึ่งในไม่กี่เเห่งที่ยังไม่พร้อมจะเข้าร่วมด้วย ถึงเเม้ว่าเงินเฟ้อโซนยุโรปจะกระฉูดไปที่ 5% y/yในธค. เเต่หัวหน้า ECB วางเเผนว่าการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2022 ไม่น่าจะเกิดขึ้น เธอบอกว่าธนาคารกลางจะลงมือจัดการเงินเฟ้อ หากเงื่อนไขเกิด เเต่หากการคาดตัวเลขเงินเฟ้อยังคงส่งสัญญาณว่ามันจะลดลงเรื่อยๆ ไปต่ำกว่า 2% ใน 2023 เเละ 2024 ก็คงยังไม่ต้องมีการพูดกันเรื่องขึ้นดอกเบี้ย
เเต่นักลงทุนยังไม่ตกลงใจเชื่อนัก พวกเขาเชื่อว่าการขึ้นดอกเบี้ย 10 basis points จนถึง 20 basis points ยังคงเป็นไปได้ในปีหน้า เริ่มที่กย. เร็วสุด ขณะที่บางคนเชื่อว่าดอกเบี้ยจะปีนขึ้นมาที่ 0% ภายในปี 2023
เงินเฟ้ออาจจะคอยเเหย่นโยบายการเงินอยู่เรื่อยๆ ในอนาคต
บางทีนักลงทุนอาจจะคิดถูก เเละ ECB บางคนเองก็บอกว่านักลงทุนไม่ควรให้ความสำคัญกับการที่ราคาจะต่ำลงกว่าเป้าหมาย 2% ในปี 2023 เเละ 2024
นอกจากนี้ ตัวเเปรสำคัญที่เร่งราคาขึ้นคือต้นทุนพลังงาน บันทึกเอาไว้ที่ 26% ต่อปีในธค.  เเละนอกเหนือจากการกระตุ้นของการขาดอุปทานส่วนเกินเเล้ว European Union ซึ่งมีเป้าหมายใน 7 ปีจะทำให้โซนยุโรปเป็นเเหล่งคาร์บอนในปี 2050 อาจจะทำให้ราคามันสูงขึ้นไปอีก หากประเทศสมาชิกต้องเจอกับภาษีคาร์บอนที่สูง
ในโลกการเงิน ตลาดพันธบัตรยุโรปอาจมีผลเสียหากอัตราดอกเบี้ยที่สูงในภูมิภาคอื่นทำให้นักลงทุนต้องย้ายเงินทุนออกนอกโซนยุโรป ดังนั้นความต่างของธนาคารกลางอื่นๆ กับ ECB อาจทำให้อย่างหลังเสียเปรียบ สำหรับยูโรเเล้วอาจจะยังมุ่งสู่ขาลงในกรณีที่ ECB เป็น dovish ทำให้ราคานำเข้าเเพง เพิ่มความกดดันให้กับเงินเฟ้อขึ้นไปอีก
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอยู่ในโฟกัส
อย่างไรก็ดี ที่กล่าวมาทั้งหมดอาจะเป็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว ในปัจจุบันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังช้าอยู่ ไม่เหมือนกับสหรัฐฯ เเน่นอนว่าตัวเลขการว่างงานได้กลับมาเหมือนเดิมเเล้ว เเต่ยังมากกว่าในอังกฤษเเละสหรัฐฯอยู่ดี ขณะที่ดุลการค้าได้ดิ่งลง ทำให้พย. ติดลบเป็นครั้งเเรกในรอบ 8 ปี
นี่ยังไม่พูดถึงเรืองของการเมือง ซึ่งอาจจะสะอึกได้ภายหลังเมื่อการเลือกตั้งในฝรั่งเสสเกิดขึ้น ขณะที่ความตึงเครียดในยูโรปตะวันออกก็สร้างความวิตกกังวลมาก
โทนเสียง dovish เเต่ผสมกับ hawkish เข้าไปอาจจะช่วยยูโรได้
ดังนั้นธนาคารกลางอาจจะส่งเสียง dovish เพื่อทำให้ตลาดสงบ เเต่อาจจะเพิ่มจังหวะ hawkish เข้าไปได้วยเพื่อต้านความไม่เเน่นอนของเงินเฟ้อ บางทีอาจจะบอกว่าจะลดการอุดหนุนสินทรัพย์ลงเมื่อโปรแกรมอัดฉีดจบลงในเดือนมีค. เเต่เพิ่มเงื่อนไขไปว่าอาจจะลดเร็วมากกว่านี้หากเงินเฟ้อเลวร้ายขึ้นมา
หันมามองตลาด Fx นโยบายที่เเน่นอนของ ECB อาจจะไม่สามารถเคลื่อนที่ยูโรได้ ตัวเลข CPI ในวันพุธอาจจะส่งสัญญาณให้เราเห็นว่า ECB ยืนอยู่จุดไหน เเละอาจสร้างความผันผวนให้ตลาดก่อนการประชุม การคาดการณ์อยู่ที่ 4.3% ลดลงจาก 5% ก่อนหน้า เเต่อาจจะมีเซอร์ไพรส์ก็ได้ถ้าดูจาก CPI ของเยอรมันที่เพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้มาก ถ้าหากการคาดนี้เป็นจริง เงินเฟ้อจะถือว่าสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ยูโรอาจจะดิ่งลงไปที่ 1.1000 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในภายหลัง
ถ้าหากตัวเลขออกมามากกว่าที่คาด พร้อมกับการว่างงานที่ต่ำลงไปกกว่า 7.1% ตามการคาดการณ์ ECB อาจจะลำบากที่จะควบคุมนักลงทุนไม้ให้หวังการทำ rate hike ในกรณีนี้ euro/dollars อาจจะปีนขึ้นไปเหนือ 1.1185 เเละวิ่งต่อไปที่ 1.1235 หากสูงขึ้นไปอีก จุดโฟกัสจะอยู่ที่บริเวณ 1.1300