การเลือกตั้งเยอรมัน, ความเศร้าของจีน เเละตัวเลขเศรษฐกิจอีกมากมาย


Pantira Korkasemwong, ฝ่ายวิจัยการลงทุน XM
อาทิตย์นี้เต็มไปด้วยเหตุการณ์มากมาย การเลือกตั้งในเยอรมันจะเป็นตัวสำคัญในปฏิธินยุโรป ขณะที่ญี่ปุ่นก็กำลังเลือกหัวหน้าปาร์ตี้ใหม่ ขณะที่ evergrade ของจีนคงไม่ถึงกับหลุดวงโคจรเเต่จะฉุดดึงเศรษฐกิจเเน่นอน นอกจากนี้ยังมีการเเถลงตัวเลขจากหลายที่ การประชุมของ G4 
Fed บอกว่า ‘ทุกระบบพร้อมกันหมด’
การประชุม Fed อาทิตย์นี้ Powell ส่งสัญญาณว่าการทำ taper จะเริ่มในพย. ขณะที่อัตราดอกเบี้ยใหม่เเสดงว่า FOMC เเบ่งเเยกเท่ากันสองฝ่ายระหว่างอัตราดอกเบี้ยที่จะขึ้นในปีหน้าหรือไม่  นอกจากนี้เขายังไม่ให้ความสำคัญกับ evergrande มากนัก
ถึงเเม้จะเเถลงด้วยข้อความในเชิง hawkish เเต่ดอลลาร์ก็ลำบากในการพยายามจะรักษาความได้เปรียบเอาไว้  สุดท้ายเเล้วคงจบที่ตลาดเองหายใจคล่องขึ้น เมื่อ evergrande ไม่ได้ล้มลงไป เเต่ก็เเย่งความสนใจจากดอลลาร์ลงไป เเต่นักลงทุนในตลาด futures ก็ยังรับฟัง Fed อยู่ ราคาในตลาดได้รวมเอาการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยครั้งเเรงสำหรับธค. 2022 ลงไปเเล้ว เเละผลักให้พันธบัตรเพิ่มสูงขึ้
คำถามคือ taper จะเริ่มได้เร็วเเค่ไหนเเละอาจจะมี rate hike เร็วขึ้นด้วยหรือไม่ เช่นสักเดือนกย. 2022 น่าจะเป็นไปได้
ซึ่งดูเเล้วเงินเฟ้อน่าจะยังลอยอยู่อีกสักพักเมื่อสายการผลิตชะงักลง การบริโภคมากขึ้นกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤต ตลาดเเรงงานน่าจะกลับมาเต็มกำลังในปีหน้า เเละสภาอาจจะพยายามส่งเสริมการเติบโตต่อไปด้วยการอนุญาติให้มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาอี
สรุปคือโดยรวมเเล้วภาพรวมดอลลาร์ถือว่าดีเนื่องจาก Fed ทำการ normalizes เร็วกกว่าทั้ง ECB เเละ BoJ สำหรับสัปดาห์หน้ามีตัวเลขออกมาหลายหลาย เริ่มด้วย urable goods orders ในวันจันทร์เเละวันศุกร์ personal income เเละ consumption numbers รวมไปถึงตัวโปรดของ Fed ได้เเเก่ inflation metric เเต่ที่สำคัญที่สุดจะเป็น ISM manufacturing PMI สำหรับกย. ที่จะทำให้เราคาดได้ว่ารายงานการจ้างงานฉบับหน้าจะออกมาเช่นไร
การโหวตของเยอรมัน
ทิศทางลมของการเมืองในเยอรมันเปลี่ยนไป เป็นสัปดาห์ที่การเลือกตั้งอาจทำให้กฎเรื่องของงบประมาณที่ค้างมาเป็นสิบปีจบลง ไม่มีฝ่ายไหนจะได้เสียงข้างมาก น่าจะต้องพึ่งในเรื่องของการวางเเผนซะมากกว่า
ผลสำรวจในตอนนี้พบว่าฝั่งเดโมเเครตได้เปรียบ นำโดย Olaf Scholz ผู้ซึ่งเคยผจญกับวิกฤตมาเเล้ว ในขณะที่ที่สองคือพรรคอนุรักษ์นิยมของ Merkel
ผลคงจะออกมาระหว่างสองคู่นี้ ถ้าฝั่งซ้ายชณะตามผลโพล จะทำให้มีเงินลุงทุนมากขึ้นทั้งในระดับในประเทศเเละระดับยุโรป ดังนั้นยูโรอาจจะพุ่งขึ้นไปได้มากกว่านี้ เมื่อนักลงทุนคิดพิจารณาถึงการโตของเศรษฐกิจ
ในทางตรงกันข้าม ฝั่งอนุรักษ์นิยมจะส่งสัญญาณนโยบายกระชับตัวต่อไป นำไปสู่การใช้จ่ายที่ลงเเละกลับไปสู่งบประมาณที่สมดุล นั่นจะทำให้ประเทศอื่นๆ ในยุโรปเกิดความกดดันที่ต้องทำตาม เศรษฐกิจะโตช้าลง
ประเด็นคือผลของการเลือกตั้งอาจไม่ทราบเป็นวันหรือสัปดาห์ในตอนที่พรรคมีการต่อรองกัน ถ้าผลมันสรุปเเล้วคนชนะไม่เครียลว่าเป็นใคร ค่าเงินยูโรอาจมีเเกบขาลงให้เห็นเวลาเปิดตลาดในวันจันทร์ ท่ามกลางความไม่เเน่นอน
นอกไปจากการเลือกตั้ง ยังมี ECB, BoJ, Fed, เเละ BoE ซึ่งน่าสนใจต่อตลาด Fx รายงานเงินเฟ้อล่าสุดของยโรปจะออกวันศุกรื เละอาจจะสะท้อนถึงการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานทั้งทั้งพื้นที่
ญี่ปุ่นเองก็หาผู้นำใหม่
ฝั่ง LDP party จะเลือกหัวหน้าพรรคในวันพุธ คนชนะเเทบจะได้รับการการันตรีเป็นนายกเพราะสมาชิคพรรคส่วนมากอยู่ในสภา เเต่อาจจะไม่ได้อยู่ในตำเเหน่งยาวมากนักเพราะมีการเลือกตั้งประเทศในอีก 2 เดือนนี้
บุคคลที่โดดเด่นสามคนคือ Taro Kono, Fumio Kishida, เเละ Sanae Takaichi โดย kono เป็นคนที่มีเสียงนำอยู่ เขาสนับสนุนเงินอัดฉีดที่โฟกัสไปยังค่าจ้างเเละการเติบโต เขายังสนุบสนุน BoJ ในอดีตให้ร่างนโยบายการออกจาก cheap money ได้เเล้ว เขาอาจจะมาเเทน Kuroda ที่จะต้องลาจากตำเเหน่งไปใน 2023
ส่วน kishida นั้นจะอนุรักษนิยมมากกว่า สนับสนุนการอัดฉีดมากเเต่จะควบคุมดุลย์ให้พยุงกัน เเละเคยเตือน BoJ ในอดีตมาเเล้วว่าจะปล่อยให้เงินอัดฉีดมันไหลต่อไปตลอดไม่ได้ สุดท้าย takaishi จะอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งสนับสนุนเงินอัดฉีดเเบบมากมายเเละนโยบายเเบบขยายตั
สำหรับเงินเยน เคสที่ดีที่สุดคือ kano ส่วนถ้า takaichi ได้จะหมายถึงการสานต่อ ‘เศรษฐกิจเพื้ยน’ ซึ่งเป็นข่าวร้ายสำหรับค่าเงิน
สุดท้ายเเล้วสำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่น่าดู จะมี Tankan business survey รายไตรมาสออกมาในวันศุกร์
ความพยายามในการควบคุมการพังทลายของจีน
สถานการณ์ของ evergrade ดูมีความสำคัญสำหรับภาพรวมของตลาด ในระดับนี้ ดูเหมือนว่าผลกระทบใดๆ จะควบคุมเอาไว้ที่ฝ่ายท้องถิ่น ไม่ได้กระจายลงไปในระบบของการเงิน มีรายงานว่ารัฐบาลจีนพยายามสร้างข้อตกลงใหม่ซึ่งจะป้องกันไม่ให้การเสียหายลุกลามเเละปกป้องนักลงทุนในประเทศ
คำถามคือนี่จะเป็นการทำให้เกิดการถดถอยอย่างหนักในภาคสังหาริมทรัพย์หรือไม่ ซึ่งเเทบจะรวมอยู่ใน GDP ถึง 30% เศรษฐกิจจีนเองก็ชลอตัวลงอยู่เเล้ว ดังนั้นความเสียหายนี้อาจสร้างความกดดันต่อการเติบโตหนักขึ้นไปอีก เเละรัฐบาลก็ไม่สามารถเพียงเเค่จะอัดเงินเข้าไปเพราะจะกลายเป็น cheap money เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ดังนั้น PMI business surveys  สำหรับกย. เลยถูกจับตาอย่างมาก หากเศรษฐกิจยังคงเสียโมเมนตั้มก่อนที่จะเเก้ปัญหา evergrande ได้ จะทำให้ค่าเงินจีนเสียหายเช่นค่าเงินออสซี่